สายวันหนึ่งเมื่อราวๆสามปีที่แล้ว เสียงโทรศัพท์ปลุกให้ไอ้ตัวขี้เกียจอย่างผมลุกงัวเงียขึ้นมาจากเตียงนอน ปลายสายคือรุ่นพี่ที่ไม่ได้คุยได้เจอกันมานานแจ้งข่าวว่าพี่ที่สนิทมากคนหนึ่ง “ตายแล้ว” ความรู้สึกตอนนั้นคือตกใจ แต่ถามว่าแปลกใจไหม ก็ไม่ได้แปลกใจมาก เพราะทราบว่าพี่เขาป่วยมานานแล้ว มานั่งนึกย้อนดูว่าครั้งสุดท้ายที่คุยกันคือเมื่อไหร่ ก็นับเวลาได้มากกว่าสองปี ซึ่งตลอดสองปีหลังที่ผ่านมานั้น ก็คิดตลอดว่าเราควรนัดเจอกับพี่เขาสักหน่อย แต่สุดท้ายงานการ หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่รั้งเราไว้ไม่ให้ไปหาหรือโทรหา ทำให้เราสองคนขาดการติดต่อกันไป จนเมื่อคืนก่อนหน้านั้นเอง อยู่ๆเกิดนึกถึง เลยไลน์ไปหาว่า “พี่สบายดีไหม ทำอะไรอยู่” แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ ก็ได้แต่คิดว่าพี่แกคงยุ่งหรือยังไม่อยากคุย ไว้เดี๋ยวค่อยโทรหาอีกที ตื่นเช้ามาก็ได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าเราคงไม่ได้คุยกันอีกแล้ว

แม้แต่งานศพผมก็ไม่ได้ไปร่วม เพราะติดงาน ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดตั้งแต่วันสวดอภิธรรมวันแรก แต่ตั้งใจว่าต้องไปเคารพศพให้ได้ เลยเรียกรถนั่งไปวัดตั้งแต่กลางวันก่อนเดินทางขึ้นเครื่อง ไปถึงศาลายังปิดเงียบอยู่ ไปขอให้เจ้าหน้าที่เปิดศาลาให้เพื่อกราบศพและบอกลากันเป็นครั้งสุดท้าย ผมเดินออกมาจากศาลาที่ตั้งศพ ก้มลงมองที่พื้น เห็นดอกสาละร่วงอยู่ ผมหยิบมันขึ้นมาถ่ายรูปและโพสต์ข้อความไว้อาลัยถึงพี่สาวคนนี้บนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมอย่างที่ใครๆสมัยนี้ชอบทำกัน รู้ทั้งรู้ว่าคนตายไม่ได้มาอ่านหรอก จริงๆเราอาจจะแค่อยากเยียวยาจิตใจของตัวเองกันเท่านั้นเอง

วันนั้นเป็นวันที่ได้ตระหนักว่าชีวิตมันก็เป็นเช่นนั้นเอง มีเกิด มีดับ มีพบ มีจาก มีพราก เป็นของธรรมดา ตายไป คนอาจจะเสียใจกันอยู่สักพัก แล้วเราก็จะค่อยๆถูกลืม อาจจะมีคนนึกถึงบ้าง นานๆครั้ง แต่ช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ต่างหาก ที่ควรจะให้ความสำคัญต่อกันและกัน ใส่ใจกับรายละเอียดรอบตัว รวมไปถึงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีคุณค่า alive จึงถือกำเนิดมาจากตรงนั้น ที่ใต้ต้นสาละในวัดแห่งนั้น นับตั้งแต่วันนั้น ผ่านความขี้เกียจ ความไม่พร้อม และข้ออ้างต่างๆนานา ก็เป็นเวลาสองปีกว่า ถึงจะได้มาเป็นเว็บไซต์ที่เห็นกันอยู่นี้ ด้วยเรื่องราวหลากหลายมุมมองของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนากับคนแปลกหน้าหรือเพื่อนสนิทที่คุ้นเคยมากหน้าหลายตา ในคอลัมน์ Faces ไลฟ์สไตล์สัพเพเหระ ในคอลัมน์ Lives เรื่องเล่าเบี้ยบ้ายรายทางจากการเดินทางไปในต่างแห่งแหล่งที่ ทั้งสถานที่แปลกใหม่ หรือสถานที่คุ้นเคยที่เราอาจจะมองข้ามไป ในคอลัมน์ Places ไปจนถึงการเดินทางภายในใจ กับคอลัมน์ Souls และรูปดอกสาละบนอินสตาแกรมในวันนั้น ก็ได้กลายมาเป็นโลโก้ของเราในวันนี้

ผมไม่รู้หรอกว่าจะมีคนผ่านมาเห็นและได้อ่าน alive มากน้อยแค่ไหน แต่ตั้งใจว่าจะใช้เป็นที่แชร์เรื่องราวที่คิดว่าดีและพอจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง อาจจะไม่ได้มีสาระอะไรมากมายนัก แต่หวังว่าจะช่วยต่อชีวิตของตัวเองและคนอื่น ให้ใช้ชีวิตกันต่อไปด้วยความชุ่มฉ่ำใจ เป็นการส่งต่อความรู้สึกดีๆและแรงบันดาลใจให้แก่กัน

Books to make you feel alive LivesBooks to make you feel alive 5 นักอ่าน มาแนะนำหนังสือที่เป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตและการทำงาน กับเรื่องราวของเบื้องหลังประทับใจ (12/4/2019)
A Flood Tale SoulsA Flood Tale เรื่องเล่าของอุบัติเหตุในวันน้ำท่วม กับคำถามที่ว่า เหตุบังเอิญบนโลกนี้มีจริงหรือ? (11/24/2019)
Own Your Breath - Alive November 2019 Issue FacesOwn Your Breath โปรเจ็กต์แมเนเจอร์ ครีเอทีฟ วีเจ เลขา ครูสอนภาษา ที่ฝึกโยคะเพียงเพื่อเป็นการออกกำลังกายและกิจกรรมยามว่างเมื่อแรกเริ่ม กับการค้นพบความหมายที่แท้จริงของโยคะ สู่การเปลี่ยนแปลงภายในใจ และมุมมองของชีวิตที่เปลี่ยนไป จนกลายเป็นครูสอนโยคะเต็มตัวในปัจจุบัน (11/17/2019)
Bodh Gaya - ท่องพุทธคยา PlacesBodh Gaya: The Land of Enlightenment ตามรอยพระพุทธองค์ สู่เส้นทางแห่งสมาธิภาวนา ฝึกอุเบกขาและขันติบารมี ที่พุทธคยา (11/11/2019)

Begin typing your search term above and press enter to search. Press ESC to cancel.